กระชายมหิดล: ไขข้อสงสัย วิตามิน กับ อาหารเสริม ดีต่อสุขภาพจริงมั้ย? กินอย่างไรให้ได้ผล? วิตามินและอาหารเสริม มากมายหลายยี่ห้อที่วางขายอยู่เกลื่อนกลาด มีทั้งสรรพคุณช่วยบำรุง เปลี่ยนผิวเสียให้สวย ลดน้ำหนัก ลดไขมัน และอื่นๆ บางคนกินรวมกันหลายประเภทหวังการบำรุงแบบเต็มพิกัด แต่บางคนก็ยังไม่กล้ากิน เพราะกลัวผลเสียที่อาจตามมา วันนี้จะพาไปไขข้อสงสัย ว่าจริงๆ แล้ว การกินวิตามิน หรือ อาหารเสริมนั้น ดีต่อสุขภาพของเราหรือไม่? แล้วถ้าอยากกิน จะกินอย่างไรให้ได้ผล? ว่าแล้วก็ ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
‘วิตามิน’ กับ ‘อาหารเสริม’ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?
วิตามิน และ อาหารเสริม แต่ละตัวมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงแตกต่างกันออกไป บางตัวช่วยบำรุงผม บางตัวช่วยบำรุงเล็บ บางตัวช่วยเสริมธาตุอาหารที่ร่างกายขาดไป ฟังดูแล้วมีประโยชน์ แต่นอกจากช่วยบำรุงแล้ว วิตามินและอาหารเสริมเหล่านี้ยังส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้ หากกินแบบไม่ถูกวิธี…
1. วิตามินและอาหารเสริมทำให้ตับทำงานหนักขึ้น
วิตามินและอาหารเสริม หากผลิตมาแบบไม่ได้มาตรฐานมักจะมีสารเคมีปะปนมาด้วย หากกินวิตามินและอาหารเสริมเหล่านี้มากๆ ก็จะทำให้เรารับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว นานวันเข้า ตับก้จะยิ่งทำงานหนัก เพราะต้องคอยกรองสารอาหารที่จำเป็น ไปพร้อมๆ กับกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ตับและไตเสื่อมไวขึ้นนั่นเองค่ะ
2. วิตามินและอาหารเสริมที่ดูดซึมไม่หมดจะตกค้างสะสมอยู่ในร่างกาย
วิตามิน และอาหารเสริมบางชนิดที่ละลายในน้ำได้ไม่ดี ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ยากจนเกิดเป็นสารตกค้างอยู่ เมื่อกินเป็นปริมาณมากต่อเนื่องกัน ก็จะตกค้างสะสมอยู่ในร่างกาย ซึ่งส่งผลเสียต่อตับ หรืออาจทำให้เลือดไม่แข็งตัว วิตามินบางชนิดหากร่างกายได้รับมากเกินไป ยังทำให้เกิดนิ่วในไตได้อีกด้วย
3. กินวิตามินหรืออาหารเสริมอาจทำให้โรคประจำตัวกำเริบ
วิตามินหรืออาหารเสริม บางอย่างแม้จะมีประโยชน์กับคนทั่วไป แต่อาจเป็นอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น วิตามินซี ที่มีผลกระทบ ทำให้เลือดแข็งตัวช้าขึ้น ทั้งยังเร่งให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่าย จึงเป็นอันตรายกับผู้ป่วยในกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดแดง หรือวิตามินเอ ที่ดูดซึมยาก คั่งค้างและสะสมในตับได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไต เป็นต้น
4. คอลลาเจนและกลูต้า อาหารเสริมที่ต้องระวัง
คอลลาเจนและกลูต้า อาหารเสริมยอดฮิตสำหรับคนอยากผิวขาวใสเต่งตึง แต่อันที่จริงแล้ว อาหารเสริมทั้ง 2 อย่างนี้ ยังไม่มีผลการวิจัยไหนที่จะยืนยันคุณสมบัติ ผลลัพธ์ที่แท้จริง รวมไปถึงผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้ ถือเป็นอาหารเสริม 2 ชนิด ที่ควรระมัดระวังให้ดีก่อนตัดสินใจกินนะคะ
‘วิตามิน’ กับ ‘อาหารเสริม’ กินอย่างไรให้ได้ผล?
แต่ไม่ใช่ว่า วิตามิน และ อาหารเสริม จะส่งผลเสียไปซะหมด หากเลือกให้ดี กินให้ถูก ก็จะช่วยบำรุงร่างกายได้แน่นอน
1. เลือกกินวิตามินในกลุ่มที่ละลายน้ำได้
หากต้องการกินวิตามิน ให้เลือกวิตามินที่ละลายในน้ำได้ดี เช่น วิตามินซี วิตามินบี หรือโฟเลต เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย ไม่สะสมตกค้าง ไม่ทำให้ตับหรือไตต้องทำงานหนักมากเกินไป
2. เลือกอาหารเสริมที่เป็นโมเลกุลขนาดเล็ก
สำหรับอาหารเสริม ก็ควรเลือกอาหารเสริมที่ผลิตแบบได้มาตรฐาน เป็นอาหารเสริมที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่า และไม่ตกค้างสะสมอยู่ในร่างกายเช่นกัน
3. อ่านฉลากบรรจุภัณฑ์วิตามิน/อาหารเสริมให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
วิตามินและอาหารเสริมแต่ละชนิด จะมีวิธีการกินแตกต่างกัน บางชนิดทานครั้งเดียวตอนเช้า บางชนิดทานครั้งเดียวก่อนนอน หรือบางชนิดกินสามครั้งหลังอาหาร นอกจากนั้นยังมีข้อควรระวังและคำแนะนำอื่นๆ ดังนั้น หากต้องการกินอาหารเสริม หรือวิตามินให้เห็นผล ควรอ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ
4. ตรวจร่างกายก่อนกินวิตามิน/อาหารเสริม
ร่างกายของเรามีข้อกำหนดและขีดจำกัดอยู่หลายประการ การจะกินวิตามินหรืออาหารเสริมให้เห็นผล จึงควรปรึกษาแพทย์ และเข้ารับการตรวจร่างกายหาปริมาณวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ก่อน เพื่อเลือกกินแต่วิตามิน หรือ อาหารเสริม ที่ร่างกายของเราขาดไป หรือได้รับไม่เพียงพอเท่านั้น เพราะอาหารเสริม/วิตามินบางอย่าง ถ้าได้รับมากเกินความจำเป็น ร่างกายก็จะกำจัดออก หรือถ้ากำจัดออกไม่หมด ก็จะตกค้างอยู่ในร่างกาย นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์และยังให้โทษ ทั้งยังทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุอีกด้วย
สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างหนึ่งคือ การกินวิตามิน หรืออาหารเสริมที่มีสรรพคุณใกล้เคียงกัน เช่น บางคนทานวิตามินอี ไปพร้อมๆ กับการทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ซึ่งทั้ง 2 ชนิด มีสรรพคุณช่วยในเรื่องผิวพรรณเหมือนกัน ทางที่ดีควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อป้องกันร่างกายได้รับวิตามินซ้ำซ้อนจนเกินจำเป็นนะคะ
ทำไมบางคน กิน ‘วิตามิน’ หรือ ‘อาหารเสริม’ แล้วไม่เห็นผล?
มาถึงคำถามสุดท้ายที่หลายๆ คนสงสัย ว่าทำไมเรากินวิตามินหรืออาหารเสริมแล้วถึงไม่เห็นผลเหมือนคนอื่นๆ ที่เป็นเช่นนี้เพราะระบบต่างๆ ในร่างกายของคนเรามีสมรรถภาพในการทำงานแตกต่างกัน เช่น บางคนร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ ได้ดี แต่บางคนที่ลำไส้ดูดซึมได้น้อย ก็อาจจะต้องใช้เวลากินวิตามินหรืออาหารเสริมต่อเนื่องนานกว่าจะเห็นผล นอกจากนั้นเรื่องของฮอร์โมนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง บางคนอาจจะกิน Zinc แล้วหน้าใสไร้สิว แต่บางคนกินแล้วไม่เห็นผล เพราะระดับฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวแตกต่างกันนั่นเองค่ะ
วิตามินและอาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค กว่าจะเห็นผลลัพธ์อาจจะต้องพึ่งเวลา ดังนั้น หากต้องการกินก็ควรกินอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญควรเลือกวิตามินหรืออาหารเสริมจากยี่ห้อผู้ผลิตที่ไว้ใจได้ ผ่านการรับรองโดยองค์กรอาหารและยา เพื่อความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุดของตัวเราเองนะคะ
สุดท้ายนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารเสริม ก็ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้เสริมวิตามินหรือแร่ธาตุที่ร่างกายขาดไปเท่านั้น เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี และแข็งแรงเต็มร้อย เราควรให้ความสำคัญกับการกินอาหารในชีวิตประจำวัน ทานผักผลไม้ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย แล้วค่อยเสริมด้วยวิตามินหรืออาหารเสริมที่จำเป็นอีกที เท่านี้ก็แข็งแรง พร้อมรับมือสู้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้แล้วล่ะค่ะ
กระชายมหิดล: ไขข้อสงสัย วิตามิน กับ อาหารเสริม ดีต่อสุขภาพจริงมั้ย? กินอย่างไรให้ได้ผล? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/